Patek Philippe “Henry Graves Supercomplication”
นาฬิกา นอกจากจะเป็นเครื่องมือสำหรับบอกเวลาแล้ว ยังเป็นเครื่องประดับที่แสดงถึงไลฟ์สไตล์แต่ละคน ภายใต้การทำงานที่ซับซ้อนของฟันเฟืองและชิ้นส่วนมากมาย ซึ่งสมัยนี้ นอกจากนาฬิกาจะใช้บอกเวลาแล้ว ยังพกพามากับความสามารถในการทำงานบนฟังก์ชั่นต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น จับเวลา, นับถอยหลัง, ปลุก, แจ้งเตือน และอีกหลายจุดประสงค์ ด้วยสาเหตุของความแตกต่างในรายละเอียดของการผลิตนี้เอง จึงทำให้นาฬิกามีหลายระดับ ตั้งแต่เรือนไม่กี่บาท ไปถึงหลักหลายร้อยล้าน วันนี้ Zenith จะมานำเสนอ นฬิกาที่มีราคาแพงที่สุดในโลกให้ชาว zenith ได้ชมกันครับ
และนี่ก็คือโฉมหน้าของนาฬิกายี่ห้อ Patek Philippe รุ่น “Henry Graves Supercomplication” นาฬิกาที่แพงที่สุดในโลกเรือนใหม่ที่ถูกประมูลในราคา 21 ล้าน 3 แสนดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 693 ล้านบาท !! ซึ่งเมื่อนับรวมค่าคอมมิชชั่นที่ผู้ประมูลต้องจ่ายเพิ่มอีก ก็จะรวมเป็นเงินสูงถึง 24 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 781 ล้าน 7 แสนบาท !!
“Henry Graves Supercomplication” เป็นชื่อที่ถูกตั้งขึ้นตามชื่อเจ้าของเดิม ซึ่งเป็นนายธนาคารแห่งนครนิวยอร์ก ผู้สั่งทำนาฬิกาเรือนนี้ เมื่อปี ค.ศ. 1925 “Henry Graves Supercomplication” ประกอบด้วยชิ้นส่วนต่างๆ กว่า 900 ชิ้น มีน้ำหนักกว่า 500 กรัม เป็นนาฬิกาพกที่มีหน้าปัด 2 ด้าน ตัวเรือนทำจากทองคำ 18 กะรัต สร้างขึ้นโดย Patek Philippe นักสร้างนาฬิกาชาวสวิส ที่ได้ใช้เวลาสร้างนาฬิกาเรือนนี้ถึง 8 ปี และสร้างเสร็จในปี ค.ศ. 1932 ซึ่งนับได้ว่าเป็นนาฬิกาที่ล้ำสมัยสุดๆ ในสมัยนั้น!!
นอกจาก “Henry Graves Supercomplication” จะเป็นนาฬิกาที่มีความซับซ้อนอยู่มากมายหลายอย่างแล้ว ยังมาพร้อม 24 ฟังก์ชั่นการทำงานด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น... ฟังก์ชั่นของปฏิทินถาวรที่บอกทั้ง ข้างขึ้น - ข้างแรม , ฟังก์ชั่นที่เข็มนาฬิกาสามารถจับเวลา 2 เหตุการณ์พร้อมๆ กันได้, ฟังก์ชั่นบอกเวลาพระอาทิตย์ขึ้น - ตก หรือกระทั่งมีฟังก์ชั่นที่สามารถเพิ่มวันที่ 29 กุมภาพันธ์ได้โดยอัตโนมัติ แบบที่ไม่ต้องตามปรับให้หงุดหงิดทุกปี ด้วยฟังก์ชั่นการทำงานขนาดนี้ ทำให้มันไม่ต้องรีเซ็ตตัวเองและสามารถใช้งานได้จนถึงปี ค.ศ. 2100 เลยทีเดียว!!
Zenith Says : ในบรรดานาฬิกาที่แพงที่สุดในโลกทั้ง 20 เรือน มีนาฬิกายี่ห้อ Patek Philippe ปาเข้าไปถึง 5 เรือนด้วยกัน ซึ่ง 1 เรือนในนั้น ก็เป็นราคาครึ่งหนึ่งของจำนวนเงินที่ขายประมูลได้ทั้งหมดแล้ว แบรนด์ Patek Philippe จึงได้สมญานามว่า ราชินีแห่งการขายประมูล นั่นเอง
