Living Room DECORATION
ห้องนั่งเล่นที่ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องเล่นๆ
ถ้าหากคุณต้องการที่จะตกแต่งหรือต่อเติมบ้านหรือห้องของคุณ แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มยัง ก่อนที่คุณจะเริ่มลงมือคุณ แผนการคร่าวๆที่คุณควรจะมี วันนี้ทาง Zenith จะเจาะลึกในส่วนของการตกแต่งห้องนั่งเล่นหรือLiving Room ที่ถือว่าเป็นห้องที่มีความสำคัญที่สุดของบ้านและครอบครัวของคุณ
Living Room จำเป็นต้องมีบรรยากาศที่เป็นมิตร อบอุ่นและอยู่สบาย โดยเลือกใช้กลุ่มสีที่ดูเข้ากันง่ายและสบายตา มาดูเทรนด์การใช้สีสันใน Living Room
Seaside Harmony กลุ่มสีโทนเย็นแรงบันดาลใจมาจากสีของทะเลในวันฟ้าเปิด ดูยังไงก็สบายตาอยู่แล้ว ประกอบด้วยสี Sea Grass Green, Ocean Blue, Aqua, Warm White Beach Sand เมื่อนำมาใช้ภายในห้องแล้วเลือกใช้สีคู่ตรงข้ามในกลุ่มสีโทนร้อนมาตัดเป็นจุดเด่น จะเพิ่มความน่าสนใจขึ้นได้อีกเยอะเลย
Urban Alternative บ้านที่มีการตกแต่งในสไตล์ที่เน้นความเป็นธรรมชาติ โชว์สัจจะของวัสดุ จนไปถึงความเป็นอินดัสเทรียลนิด ๆ ประกอบด้วยสี Dark Olive, Chalky Brown, Industrial Grey, White, Burnt Orange สีกลุ่มนี้จะให้บรรยากาศที่ดูดิบเท่ไร้กาลเวลา เหมาะกับคนรุ่นใหม่
Natural Avocation กลุ่มสีที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากวิทยาศาสตร์ที่พยายามหาความลับของธรรมชาติ ตั้งแต่พืชศาสตร์ภูมิศาสตร์ ดาราศาสตร์ ตลอดจนความลับของสัตว์และแมลง ศาสตร์แขนงเหล่านี้ได้ตีความออกมาเป็นกลุ่มสีที่ประกอบด้วย Jungle Green, Barked Earth Brown, Yellow, Deep Blue, Grass Green สีกลุ่มนี้กำลังได้รับความนิยมไม่เฉพาะในการตกแต่งบ้านเท่านั้น แต่ในงานแฟชั่นและศิลปะก็ได้นำสีกลุ่มนีไปใช้อย่างกว้างขวาง
LIVING WITH DIMENSION เริ่มตั้งแต่การกำหนดพื้นที่ของ Living Room หลายคนอาจจะสงสัยถึงขนาดที่มีความเหมาะสมกับห้องนี้ ทำได้ง่ายๆ โดยดูที่ 2 ประเด็นหลักคือ 1. จำนวนสมาชิกในครอบครัวและกิจกรรมที่อยากให้เกิดขึ้นในพื้นที่แห่งนี้ ซึ่ง Living Room โดยส่วนใหญ่จะมีขนาดตั้งแต่ 2x2 เมตรขึ้นไป ในกรณีที่เป็นคอมแพคสเปซ เช่น ในคอนโด และจะมีขนาดมากขึ้นไปตามข้อจำกัดของพื้นที่แต่ละบ้าน 2. กำหนดตามความต้องการใช้งานของสมาชิก ควรมีขนาดเริ่มแต่ 4x4 เมตร ส่วนใหญ่มีการใช้งานเพียงแค่นั่งเล่น พักผ่อนและดูทีวี ซึ่งก็สามารถขยายขนาดให้เหมาะกับปริมาณและความต้องใช้งานได้ โดยไม่จำกัดการออกแบบอยู่แต่เพียงห้องสี่เหลี่ยมเท่านั้น แต่ยังสามารถเป็นได้ทั้งห้องสเปซแบบวงกลมและวงรี ที่ทำให้ห้องนั่งเล่นดูน่าสนใจขึ้น อีกหนึ่งมิติที่ควรให้ความสนใจอย่างยิ่งในการออกแบบ Living Room ก็คือ “Ceiling Height” หรือความสูงของฝ้าเพดาน หรือออกแบบให้เป็นพื้นที่เปิดโล่ง 2 ชั้น จะมีผลต่อความรู้สึกของสเปซอย่างมาก สเปซของห้องก็จะยิ่งมีความโปร่งโล่ง สวยงาม และมีบรรยากาศที่ดูหรูหรา โอ่อ่ามากขึ้น
LIVING LAYOUT
ซึ่งการจัดเลย์เอาท์ที่ดีจะไม่คำนึงถึงแต่ข้อจำกัดของพื้นที่เท่านั้น แต่จำเป็นต้องเข้าใจการใช้งานภายในห้องที่จะเกิดขึ้นของการจัดเลย์เอาท์ในแบบนั้น ๆ ด้วย ขอยกตัวอย่างการจัดเลย์เอาต์ห้อง Living Room ในแบบต่าง ๆ มาให้ดูกัน
Layout A ขนาด 3.5x3.5 เมตร จะได้เป็นพื้นที่กึ่งโซฟากึ่งเตียงที่สามารถนั่งหรือนอนเอกเขนกได้ทั้งวัน รวมทั้งยังสามารถออกแบบยกพื้นให้เป็นสิ้นชักเก็บของได้อีก
Layout B ขนาด 4x4 เมตร มาตรฐานที่เห็นได้ทั่วไปตามบ้านเดี่ยวหรือคอนโด และยังมีเดย์เบดไว้ตรงฝั่งที่ติดหน้าต่าง ให้สามารถนอนพักผ่อนในเวลาระหว่างวันได้
Layout C ขนาด 5x4 เมตร ขนาดมาตรฐานเช่นเดียวกัน ออกแบบให้มีอาร์มแชร์อยู่ทั้งสองข้างของโซฟา ทำให้ห้องดูมีความสมมาตรและมีความเป็นทางการขึ้นมาหน่อย
Layout E ขนาด 5x5 เมตร แบบเป็นทางการอีกแบบหนึ่ง ใช้โซฟาแบบตัว L เพื่อให้นั่งเหยียดขาได้ในท่าที่สบายมากกว่าพร้อมเพิ่มจำนวนที่นั่งภายในห้องตามพื้นที่ห้องที่มากขึ้น
Layout F ขนาด 4.5x5 เมตร ที่ตั้งใจออกแบบเลยเอาต์ให้มีความสบาย ๆ ดูสนุกสนาน และเต็มไปด้วยจินตนาการประกอบไปด้วยผนังอยู่ตรงกลาง สามารถตกแต่งให้กลายเป็น Feature Wall หรือผนังที่โดดเด่นของห้องได้
Layout H ขนาด 5 เมตร ในกรณีที่มีพื้นที่ห้องเป็นรูปวงกลม ซึ่งทำให้ห้องมีความแตกต่างอย่างน่าสนใจ การจัดเลย์เอาท์แบบนี้จะทำให้บรรยากาศของห้องแตกต่างไปจากห้องสี่เหลี่ยมธรรมดาไปเลย
Layout I ขนาด 11x4 เมตร การจัดเลย์เอาท์แบบนี้กำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในบ้านสมัยใหม่โดยการออกแบบให้เป็นห้องโถงขนาดใหญ่เพียงห้องเดียว ทำให้ห้องดูโล่งโปร่งและกว้างขวางกว่าความเป็นจริง เย็นสบายทั้งวัน ห้องนี้จึงเหมาะกับการเป็นศูนย์กลางของบ้านอย่างแท้จริง
LIVING FIT FUNCTION อย่างที่บอกไปแล้วว่าทุกฟังก์ชั่นการใช้งานและกิจกรรมที่ครอบครัวทำด้วยกันได้สามารถออกแบบลงไปในห้องนั่งเล่นได้หมด Living Room ในบ้านสมัยใหม่จึงมักทำหน้าที่มากกว่าเป็นสถานที่สำหรับพักผ่อนหรือดูทีวี
Living+Home Theater ห้อง Living Room ที่สามารถใช้งานเป็นโฮมเธียเตอร์ได้ การออกแบบจำเป็นจะต้องเตรียมห้องให้สามารถคุมความมืด-สว่างได้ เพื่อให้นั่งสบายในอิริยาบถขณะดูโทรทัศน์เป็นเวลานาน เคล็ดลับอีกอย่างของห้องโฮมเธียเตอร์นั่นก็คือ การใช้สีแดง เพราะสีแดงเป็นสีที่มีดที่สุดเมื่อเวลาปิดไฟนั่นเอง
Living+Game Room ในครอบครัวที่มีเด็ก ๆ อาจจะออกแบบให้ Living Room กลายเป็น Game Room ที่สามารถสร้างความสนุกสนานให้กับทุก ๆ คนในครอบครัวสามารถเล่นด้วยกันได้ และยังเป็นองค์ประกอบตกแต่งบ้านได้อีก โต๊ะกลางที่ออกแบบให้มีกิมมิกในรายละเอียด โดยเปิดท็อปโต๊ะออกมาแล้วกลายเป็นกระดานหมากรุก ก็สามารถสร้างความประหลาดใจและเป็นสีสันให้กับห้องได้เป็นอย่างดี
Living+Library ห้อง Living Room สำหรับครอบครัวหนอนหนังสืออาจจำเป็นจะต้องเน้นเรื่องความสว่างเป็นสำคัญ เพราะแสงธรรมชาติเป็นแสงสว่างสำหรับการอ่านหนังสือหรือทำงานได้ดีที่สุด โดยอาจจะให้มีม่านแบบเชียร์หรือม่านแบบโปร่งแสง หรือม่าน Sunscreen ที่ปิดได้เมื่อแดดแรงเกินไปเป็นตัวควบคุมแสงสว่าง
Living+Party Space Living Room ยังใช้เป็นสถานที่สำหรับรับรองเพื่อน ๆ และญาติ ๆ ในงานปาร์ตี้ต่าง ๆ อีกด้วย ดังนั้น Living Room ห้องนี้จึงควรอยู่ติดหรือเข้าถึงห้องแพนทรี่และห้องครัวได้ง่าย วัสดุที่ใช้ไม่ว่าจะพื้นหรือผนังก็ควรจะเป็นวัสดุที่สามารถทำความสะอาดได้ง่าย เช่น กระเบื้อง หิน และกระจก เป็นต้น รวมทั้งควรมีพื้นที่เชื่อมต่อสู่ภายนอกในส่วนของสวนและระเบียง ให้สามารถรองรับแขกในกรณีที่ด้านในบ้านรองรับได้ไม่พอด้วย
บทความบางส่วนจาก : สาธกา เจียรจบุญศรี
เรียบเรียงบทความ ; jeanz'woman