Lamborghini Centenario LP770-4

ลัมโบร์กินีเปิดตัวซูเปอร์คาร์รุ่นพิเศษ Lamborghini Centenario LP770-4 อย่างเป็นทางการ เมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา จำกัดจำนวนการผลิตเอาไว้เพียง 40 คันแบ่งเป็นรุ่น Coupe 20 คัน และ รุ่น Roadster 20 คันเท่านั้น และขึ้นป้าย Sold Out ไปเรียบร้อยแล้วตั้งแต่ก่อนงาน เจนีวา มอเตอร์โชว์ จะเริ่มในเดือนมีนาที่ผ่านมาเสียอีก ชื่อ Centenario ในภาษาสเปนหมายถึง Centenary หรือครบวาระ 100 ปี ซึ่งในปี 2016 นี้จะเป็นปีที่ครบรอบอายุ 100 ปีของ Ferruccio Lamborghini ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Automobili Lamborghini S.p.A. หากเขายังมีชีวิตอยู่

โดยพื้นฐาน Centenario พัฒนาขึ้นบนแชสซีส์โมโนคอคของ Aventador ทว่ามีความยาวรวมมากกว่ารุ่นพิเศษอย่าง Aventador Superveloce Lamborghini Centenario LP 770-4 ได้รับการออกแบบโดยทีมดีไซเนอร์ร่วมกับวิศวกรของ Lamborghini ได้อย่างอิสระเพื่อแสดงถึงความพิเศษในแบบ Limited Edition ด้วยเส้นสายบริสุทธิ์เป็นแก่นแท้ภายใต้ภาษาการออกแบบใหม่ที่บ่งบอกตัวตนของ ฝากระโปรงหน้าเจาะช่องระบายอากาศขนาดใหญ่ 2 ช่อง นัยว่าระลึกถึงรถสปอร์ตในตำนานอย่าง Lamborgini Miura ชุดแอร์โรไดนามิคออกแบบใหม่ทั้งหมด รวมทั้งมีล้อน้ำหนักเบาลายใหม่ เพื่อให้มีความพิเศษกว่ารุ่นอื่นๆ ในปัจจุบัน น้ำหนักตัวรวม 1,520 กก. หากตัวเลขไม่ผิดไปจากนี้ Centenario จะเบากว่า Superveloce ราว 5 กก. ม้า 1 ตัวแบกน้ำหนักราว 1.9 กก. ภาระของอัตราส่วนแรงม้าต่อน้ำหนักจะลดลงนิดหน่อยเมื่อเทียบกับ Aventador ซึ่งมีตัวเลข Power-to-weight-ratio อยู่ที่ 2 กก./แรงม้า

พละกำลังมาจากเครื่องยนต์เบนซิน V12 ความจุ 6.5 ลิตรทำมุม 60 องศา วางกลางลำตามยาว ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ LP หรือ "longitudinal posterior" ตามด้วยตัวเลข 770 หมายถึงแรงม้าที่มีทั้งหมด 770 ตัว ที่ 8,500 รอบ/นาที ส่วนแรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 690 นิวตันเมตร ปราศจากระบบอัดอากาศอย่างเทอร์โบพร้อมกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบไร้ระบบอัดอากาศบล็อกเดียวกัน โดยออกแบบให้เป็น Slat หรือบานเกล็ดเหมือนกับที่เคยมีใน Lamborghini Miura และใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์แบบกรุกระจกเพื่อโชว์ขุมพลัง V12 ได้อย่างชัดเจน อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. 2.8 วินาที ความเร็วสูงสุด 350 กม./ชม. ทางด้านประสิทธิภาพการเบรกนั้นจาก 100-0 กม./ชม. ระยะทางแค่ 30 เมตร และจาก 300-0 กม./ชม. ทำได้ภายใน 290 เมตร

สำหรับมุมมองท้ายรถคงไม่มีอะไรโดดเด่นไปกว่าครีบดิฟฟิวเซอร์ขนาดใหญ่ 6 บั้ง ตัดขอบเหลืองที่ช่วยจัดเรียงกระแสลมอลวนท้ายรถ ตรงกลางเป็นท่อไอเสียแบบ 3 ช่อง พร้อมไฟท้ายที่ออกแบบให้ลอยตัวเป็นเส้นตรงปลายแฉกคล้ายลูกธนูเล็งเข้าหาตราสัญลักษณ์ Lamborgini เพียงเท่านี้ก็คงเพียงพอที่จะบอกให้รถคันหลังเลิกคิดที่จะไล่ตามไว้ตั้งแต่ก่อนออกตัว

แต่ Lamborghini Centenario LP 770-4 ก็มาพร้อมกับห้องโดยสารที่หรูหราตกแต่งด้วยการหุ้มอัลคันทาราสีเทาทั้งเบาะนั่ง แผงหน้าปัด แผงประตูด้านข้าง พวงมาลัย ที่เดินตะเข็บและกุ๊นขอบด้วยสีเหลืองสด สลับกับคาร์บอนไฟเบอร์ตามจุดต่าง ๆ

นอกจากนี้ที่คอนโซลกลางยังติดตั้งจอทัชสกรีนความละเอียดสูงขนาด 10.1 นิ้ว ที่สามารถเชื่อมต่อกับโลกภายนอกได้ด้วยอินเทอร์เน็ต รวมถึงยังรองรับ Apple CarPlay ไว้สั่งงานอุปกรณ์ต่าง ๆ ด้วยเสียงเพื่อความปลอดภัยขณะขับขี่ด้วย

ถึงกระนั้น ลัมโบร์กินีก็ยังสามารถพูดได้เต็มปากว่า Centenario คือซูเปอร์คาร์ตัวถังคูเป้ที่ทรงพลังที่สุดของลัมโบร์กินี ณ วันปัจจุบัน ราคาจำหน่ายแบบไม่รวมภาษีใดๆ เริ่มต้นที่ 1,750,000 ยูโร หรือประมาณ 68.4 ล้านบาทครับ... และหากในลิสท์ 40 คันนั้นมีคนไทยเป็นเจ้าของ ก็น่าจะต้องจ่ายคร่าวๆ ไม่ต่ำกว่า 200 ล้านขึ้นไปเลยทีเดียว