L’atelier de Joel Robuchon’ paris

เชียร์ฟุตบอลยูโรพร้อมแวะชิมอาหารจากร้านที่มีชื่อเสียงระดับ 3 ดาวมิชลินจากเชฟชื่อก้องโลก Joel Robuchon

ต้อนรับฟุตบอลยูโร 2016 ที่ 4 ปี จะมีสักครั้ง กำลังจะมาเยือนในอีกไม่นาน ซึ่งปีนี้เจ้าภาพจะการแข่งขันตกเป็นของประเทศฝรั่งเศสนับเป็นครั้งที่ 3 แล้ว สำหรับใครที่ไปเชียร์ทีมของตัวเองในทวีปยูโรปรอบนี้อย่าพลาดในการไปชิมร้านอาหารในปารีสซึ่งขึ้นชื่อเรื่องรสชาติของอาหารที่อร่อยที่สุดและมีเชฟชื่อดังฝีมือยอดมากที่สุดในโลก

ซึ่งปัจจุบันในประเทศฝรั่งเศสนั้นกฎหมายฝรั่งเศสกำหนดให้ร้านอาหาร ติดเมนูพร้อมราคาไว้หน้าร้าน เพื่อให้ลูกค้าสามารถเลือกประเภทอาหารและราคาที่ตนสนใจและเหมาะกับกำลังทรัพย์ ส่วนใหญ่จัดเซตเมนูราคาไม่แพงร้านอาหารและร้านกาแฟเก่าแก่เป็นจุดขายที่ดี ด้วยว่าลูกค้าส่วนหนึ่งต้องการตามรอยประวัติศาสตร์ร้านอาหารในกรุงปารีสที่กำลังเนื้อหอม กลุ่ม

ธุรกิจต่างหันมาสนใจลงทุน CDC Entreprises Capital

ร้านอาหารที่นี้มีถึง 4 ประเภทให้ได้เลือกทานกัน

Bar and Café ร้านอาหารที่จำหน่ายอาหารแบบง่ายๆ จำหน่ายอาหารประเภทสลัด แซนด์วิช และอาหารว่าง

Bistro แปลว่า “อย่างเร็ว” เร่งให้ได้อาหารไวๆ เน้นอาหารแบบง่ายๆ เมนูไม่หลากหลาย และขายเครื่องดื่มควบคู่ไปด้วย ที่สำคัญก็คือ ราคาสมเหตุผล

Brasserie ร้านอาหารประเภทนี้จึงหมายถึง ร้านที่ผลิตเบียร์เองจำหน่ายอาหารที่สะท้อนความเป็นท้องถิ่น เช่น สะเต๊ก ไส้กรอก เครื่องดื่มมักเป็นประเภทแอลกอฮอล์

Restaurant ร้านอาหารที่จำหน่ายอาหารมื้อหลัก จัดเป็นประเภทร้านอาหารที่อยู่ในระดับสูงกว่าสามประเภทแรก มีบริกรที่คอยบริการ มีเมนูอาหารที่หลากหลาย และมีบริการไวน์ที่เลื่องชื่อ โดยเฉพาะหากเป็นร้านอาหารที่มีมาตรฐานติดดาว

อย่างเช่นร้าน ร้าน L’atelier de Joel Robuchon สุดหรู อยู่ในกรุงปารีส ร้านภายใต้ชื่อ

Joel Robuchon เชฟใหญ่ผู้ได้รับการขนานนามให้เป็น ‘Chef of the Century’ "เชฟแห่งศตวรรษมากด้วยประสบการณ์ ผู้ที่ครอบครองดาวมิชลินมากที่สุดจากหลากหลายร้านอาหารทั่วโลกด้วยรวมแล้ว 25 ดาว เปิดสาขากว่า 9 ประเทศ มีดาวการันตีความอร่อยถึงสามดวง บรรยากาศภายในร้านโทนดำแดงบริการในรูป แบบ over the counter ครัวแบบเปิด ล้อมรอบด้วยเคาน์เตอร์ และมีการตกแต่งคล้ายคลึงกับร้านในเครือของเชฟ Robuchon อื่น ๆ ทั่วโลก

วัตถุดิบที่ใช้ปรุงอาหารเป็นวัตถุดิบอย่างดีนำเข้าจากหลายประเทศ การตกแต่งจานที่ดูสวยงามน่าทาน เชฟที่ปรุงมานั้นก็มีรางวัลการันตีความอร่อยมากมายไม่แปลกที่ราคาจะสูง ส่วนใครที่ชอบดื่มไวน์ ไวน์ลิสต์ของที่นี่ถูกคัดสรรมาอย่างดีกว่า

300 รายการ พนักงานบริการดีมีอารมย์ขันรายการหากต้องการเดินทางไปทานควรจองล่วงหน้าสองอาทิตย์

อาหารที่ขึ้นชื่อไปแล้วไม่สั่งไม่ได้

Chilled green kale veloute with spicy tomato jelly รสชาติสดชื่น เสริฟ์ในแก้วใสใบเล็กทำให้เป็นเจลลี่ที่รองมาอย่างเด่นชัดปรุงรสแบบดั้งเดิมทำให้ทานง่าย

Le King Crab เป็นเนื้อปูห่อด้วยอะโวคาโดหั่นบางวางบน grapefruit jelly ด้านในมีครีมแต่รสไม่จัดมากเพิ่มรสหวานให้เนื้อปูมากขึ้นทานพร้อมกับอะโวคาโดเข้ากันอย่างเหลือเชื่อ

Le Cerise Cherry gazpacho with ricotta cheese and roasted pistachio

ซุปเย็นที่มีเชอร์รี่เป็นส่วนผสมเพิ่มรสชาติเปรี้ยวแต่ไม่กลบรสชาติของมะเขื่อเทศที่เป็นส่วนผสมหลัก ราด ชีส ricotta เนื้อครีม และ roasted pistachio รสนุ่มละมุนลิ้นรสกลมกล่อม

Free range quail stuffed with foie gras served with potato purée and herb salad

อาหารจานสองกษัตริย์เลยก็ว่าได้ น่องนกกระทาย่างยัดใส้กัวฟราส์ เสริฟ์พร้อมมันบดและสลัดสมุนไพร ปรุงมาสุกชุ่มช่ำกำลังดี เป็น perfectly cooked quail ทานพร้อมกับมันบด เนียนนุ่มละลายในปาก จิบไวน์แดงเพิ่มรสสัมผัสอร่อยอลังกาลมากๆ

Caramel lightness, tangerine jelly and sorbet

คาราเมลรสชาตหวานละมุน ตัดกับรสเปรี้ยวครีมเจลลี่และซอร์เบต์ส้มแทนเจอรีน เข้ากันได้เป็นอย่างดีเสริฟ์มาในภาชนะที่จัดแต่งอย่างสวยงามโรยช็อกโกแลตสีทองด้านบนกรุบๆ

ปลายปีที่ผ่านมาเชฟได้มาเปิด L’atelier de Joel Robuchon สาขาที่ประเทศไทยกับร้านอาหารฝรั่งเศสชั้น 5 Mahanakorn Cube โดยที่เราไม่ต้องบินไปไกลถึงปารีสกันแล้ว