BMW Vision Next 100 Years Concept Car รถยนต์ล้ำสมัยแห่งโลกอนาคต
เปิดตัวรถคอนเซ็ปต์ล้ำสมัยแห่งโลกอนาคตที่ยังคงมี DNA การออกแบบของ BMW อยู่ในตัวอย่างสมบูรณ์…
คอนเซ็ปต์ BMW Vision Next 100 คันนี้มีฐานล้อที่ยาวออกไปจนสุดมุมรถ และลายเส้นของรูปทรงรถที่เห็นแล้วนึกถึงรถซาลูนรุ่นหนึ่งของ BMW ขึ้นมาในทันที ด้วยความยาว 4.9 เมตรทำให้มันยาวเท่ากับ 5 Series รุ่นปัจจุบัน แต่ด้วยความสูงเพียง 1.37 เมตร ทำให้มันเตี้ยกว่าอยู่เกือบ 100 เซนติเมตร ซึ่งสูงราวๆ 4 Series Coupé ด้วยแนวคิดที่จะให้มันทำงานด้วยตัวเองมากขึ้น ดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจที่ BMW ได้เริ่มออกแบบเจ้า Vision Next 100 ใหม่ตั้งแต่ภายในห้องโดยสาร
แนวคิดของรถคอนเซ็ปต์คันนี้ก็คือ จะมีโหมดการขับขี่ให้เลือกใช้สองโหมดคือ “Boost” และ “Ease” ในโหมด Boost คนขับจะเป็นผู้ควบคุมรถเอง และจะมีระบบช่วยจากตัวรถเข้ามาเกี่ยวข้องเพียงเล็กน้อย ส่วนในโหมด Ease คนขับสามารถนั่งเอกเขนกอย่างสบายใจและปล่อยให้รถควบคุมเองทั้งหมด ภายในรถจะกลายเป็นที่ปลีกวิเวกส่วนตัวและมีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง และยังสามารถปรับแสงไฟให้เข้ากับบรรยากาศเพิ่มความผ่อนคลายได้อีกด้วย
รถจะเรียนรู้พฤติกรรมของผู้ที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตลอดเวลา ต้องขอบคุณเซ็นเซอร์และระบบดิจิตอลอัจฉริยะที่ BMW Group เรียกมันว่า Companion ระบบ Companion จะเรียนรู้อย่างเป็นขั้นเป็นตอน และเลือกการทำงานเสริมขึ้นมาช่วยการขับขี่จนคนขับกลายเป็น Ultimate Driver เจ้าอุปกรณ์ตัวหลังของ Vision 100 ก็คือสิ่งที่ BMW เรียกมันว่า ‘Alive Geometry’ ที่เป็นเหมือนตัวจับการทำงานสามมิติทั้งในรถและนอกรถ
ระบบ Alive Geometry ประกอบไปด้วยชิ้นทรงสามเหลี่ยมจำนวน 800 ชิ้น ที่ขยับตัวได้ ที่ได้ติดตั้งเอาไว้ในคอนโซลหน้า และบางส่วนของแผงประตู มีรูปแบบการทำงานเป็นแบบสามมิติ และส่งข้อมูลการเคลื่อนไหวของผู้ขับขี่ออกไปคุยกันเองโดยตรง ซึ่งเป็นอะไรที่เหนือกว่าระบบจดจำท่าทางแบบสองมิติทั่วไป แม้แต่การขยับเพียงเล็กน้อยก็สามารถตรวจจับได้
เมื่อรวมเข้ากับการทำงานของจอแสดงภาพระดับสายตาแล้ว Alive Geometry คือการเชื่อมต่อโลกอนาล็อกเข้ากับดิจิตอล
ประกอบไปด้วยระบบ AI (Artificial Intelligence) หรือปัญญาประดิษฐ์ และวัสดุ Carbon Fiber เป็นเนื้อเยื่อที่มีส่วนประกอบของธาตุคาร์บอน ระบบ Auto-Driving หรือโหมดขับขี่ออโต้ เหมือนที่ใช้อยู่ในเครื่องบิน จะให้ความสำคัญและคอยช่วยเหลือผู้ขับขี่ได้เพลิดเพลินกับการบังคับควบคุมอย่างเต็มที่ และทันทีที่เปลี่ยนเป็นโหมด Ease พวงมาลัยจะเลื่อนเก็บกลับเข้าไปที่แผงหน้าปัด พนักพิงศีรษะจะหมุนไปด้านข้าง
เบาะนั่งเลื่อนขยับไปติดกับแผงประตูเพื่อให้ผู้ขับขี่กับผู้โดยสารหันหน้าเอียงเข้าหากันได้สำหรับการสนทนาหรือรับชมความบันเทิงจากระบบอินโฟเทนเม้นท์ระหว่างเดินทางอกแบบตัวรถให้มีความปราดเปรียวสไตล์คูเป้ พร้อมตัวถังที่ยกต่ำ จึงมีมิติตัวถังยาว 4,900 มม. และสูง 1,370 มม. แต่ให้ประสิทธิภาพต้านอากาศที่ต่ำเพียง 0.18 เท่านั้นไฟหน้า-ไฟเลี้ยว LED ดีไซน์เรียวบาง
สำหรับใครที่ต้องการครอบครอง BMW รุ่นนี้อาจจะต้องรอไปอีก 10 -20 ปีรอนานหน่อยแต่ก็ถือว่าคุ้ม
ขอขอบคุณเนื้อหาบางส่วนจาก : www.catdumb.com
เรียบเรียงบทความ ; jeanz'woman