Mr.Burberry
เบอร์เบอรี่เปิดบทใหม่ของตำนานเทรนช์โคทสุดคลาสสิกด้วยน้ำหอม Mr. Buberry กลิ่นที่จะสร้างความหมายใหม่ให้กับสุภาพบุรุษ
ต้นกำเนิดของเทรนช์ โคท เอกลักษณ์ของเบอร์เบอรี่ซึ่งเป็นที่กล่าวขานถึงทั้งในแง่ของความดั้งเดิม ความสวยงาม และการใช้งานที่คล่องตัวทนทาน เห็นจะต้องย้อนกลับไปยังปี ค.ศ. 1856 เมื่อโธมัส เบอร์เบอรี่ ก่อตั้งแบรนด์ขึ้นพร้อมกับเนื้อผ้าชนิดใหม่ที่กันฝน นำมาตัดเย็บเป็นเทรนช์ โคท ซึ่งโด่งดังมาจนถึงปัจจุบัน
ในปีนี้ เบอร์เบอรี่จึงได้เปิดตัว Mr. Burberry น้ำหอมที่ผนวกเอาความทันสมัยและคลาสสิกไว้ด้วยกันภายใต้กลิ่นอายของมหานครลอนดอนบทนิยามความหอมใหม่สำหรับผู้ชาย
โดยนำเอาบรรยากาศของมหานครลอนดอน ผสมผสานกับวัฒนธรรมการผลิตน้ำหอม ตามแบบฉบับผู้ดีอังกฤษ เพื่อตอกย้ำตำนานเทรนช์โคทอันโด่งดัง ราวกับจะประกาศว่า สุภาพบุรุษมีสไตล์แบบเบอร์เบอรี่ นอกจากจะสวมใส่เสื้อผ้าชั้นดีตัดเย็บประณีตแล้ว ยังดูแลตัวเองถึงภายใน ตั้งแต่หัวจรดเท้า เรียกได้ว่า คงความทันสมัยแต่ไม่ทิ้งรากแบบลอนดอนไว้ครบทุกกระเบียดนิ้ว
ด้วยท็อปโน้ตจากเกรปฟรุ๊ต ให้ความสดชื่น มีชีวิตชีวา กลิ่นกลางให้ความสุชุมในแบบฉบับแบรนด์คลาสสิกของเบอร์เบอรี่
เบสโน้ตจาก เหล่าไม่เนื้อแข็งอย่าง Vetivor cedar และ Guaiac Wood ที่ให้ความรู้สึกดึงดูดใจ กลิ่นเหล่านี้สะท้อนความแตกต่างอย่างสุดขั้วของลอนดอน ต้นกำเนิดแบรนด์เบอร์เบอรี่
ส่วนตัวขวดได้แรงบันดาลใจการออกแบบจาก เทรนซ์โค้ทสีดำ ทรงขวดหนักแน่นแบบบุรุษ ฝาขาดใช้วัสดุเดียวกับกระดุม ขณะที่คอขวดผูด้วยผ้ากาบาร์ดีน ที่ใช้ทำเทรนซ์โค้ท ผ้านี้สร้างสรรค์โดย โธมัส เบอร์เบอรี่ ผู้ก่อตั้งแบรนด์ และสร้างสรรค์เทรนซ์โค้ทเมื่อกว่า 100 ปีที่แล้ว
เพื่อสื่อถึงแนวคิดอันซับซ้อนนี้ คริสโตเฟอร์ เบลี่ย์ นักออกแบบและผู้บริหารของเบอร์เบอรี่ได้จับมือกับ สตีฟ แมคควีน ผู้กำกับเจ้าของรางวัลออสการ์ จัดทำภาพยนตร์โฆษณา โดยดึงเอาชาวอังกฤษรุ่นใหม่อย่าง จอช ไวท์เฮ้าส์ และแอมเบอร์ แอนเดอร์สัน มาร่วมแสดง ผ่านภาพและองค์ประกอบศิลป์อันดุดันแต่เย้ายวน สตีฟถ่ายทอดบรรยากาศของกรุงลอนดอนผ่านทัศนียภาพและนัยน์ตาสื่อความหมายจากสองนักแสดงได้อย่างเร้าอารมณ์เป็นที่สุด
