Hermès T-shirt Crocodile ตัวละ 3 ล้าน
ทำชื่อเสียงด้านกระเป๋าจนเป็นที่กล่าวขานกับไปทั่วโลก มาวันนี้ แบรนด์ดัง “ Hermes ” ขาย “ T-shirt Crocodile ” แบบเงียบๆ ในแฟลกชิพสโตร์ย่านเมดิสัน อเวนิว ของกรุงนิวยอร์ก โดยมีราคาจำหน่ายสูงถึงตัวละ $91,500 หรือประมาณ 3 ล้านบาท
แม้จะไม่ใช่ ทีเชิร์ตแพงที่สุดในโลก ที่มีราคาจำหน่ายเป็นหลักสิบล้าน แต่ทีเชิร์ตที่ทำจากหนังจระเข้ของแบรนด์ดังเมืองน้ำหอมอย่างค่าย แอร์เมส ก็เรียกเสียงฮือฮาบนโลกอินเตอร์เน็ตในฐานะที่เป็นทีเชิร์ตสุดหรู “แพงที่สุดในนิวยอร์กซิตี้” โดยเสื้อตัวที่ว่านี้ปรากฏโฉมเป็นครั้งแรกบนรันเวย์แสดงคอลเลคชั่น
ทีเชิร์ตตัวดังกล่าวผลิตขึ้นภายใต้นวัตกรรมสุดล้ำที่ทำให้มีน้ำหนักเบา และนี่ก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ทีเชิร์ตหนังจระเข้ของแอร์เมสมีราคาแพงกว่าราคารถยนต์โดยทั่วไป ส่วนอีกเหตุผลหนึ่งก็คือภาษี เพราะเสื้อตัวที่ว่านี้รวมค่าภาษีในการจำหน่ายที่อเมริกา ราว $8,000 (กว่า 2.3 แสนบาท) เรียบร้อยแล้ว
อย่างไรก็ตามนอกจากทีเชิร์ตตัวกล่าว แบรนด์แอร์เมสยังมีไลน์เสื้อผ้าผู้ชายที่ทำจากหนังจระเข้ภายใต้คอลเลคชั่น “ครอคโคไดล์ ชิฟฟอน” ให้เลือกหา โดยมีราคาจำหน่ายตั้งแต่ $60,000 ถึง $100,000 ราว 1.8- 3 ล้านบาท เลยทีเดียว
หลายคนเห็นแล้วอาจรู้สึกขำและสงสัยว่าใครกันจะทุ่มเงินมากมายเพื่อซื้อทีเชิร์ตตัวละเกือบ 3 ล้าน
แต่คอลลีน โอไบรอันโฆษกองค์กรพิทักษ์สิทธิสัตว์ หรือพีต้า (PETA) เห็นแล้วขำไม่ออก เธอจึงออกมาเฉ่งผ่านเว็บไซต์ “ทูเดย์ดอทคอม” ว่า ค่าตัวอันแพงลิบลิ่วของทีเชิร์ตแอร์เมสที่แลดูตลกและเหมือนเป็นเสื้อราคาถูก ถูกจ่ายโดยจระเข้ที่ถูกทุบตายหรือไม่ก็โดนถลกหนังทั้งเป็นเพื่อนำหนังของพวกมันมาใช้เป็นวัตถุดิบ เธอยังแนะนำด้วยว่า ผู้ผลิตควรนำเสนอความคิดสร้างสรรค์ แทนที่จะใจร้ายกับสัตว์ และควรทำให้คนฆ่าสัตว์ดูเป็นแบบอย่างว่า ไม่ควรมีใครโดนฆ่าเพื่อการสร้างสรรค์ผลงาน
ขอขอบคุณเนื้อหาบางส่วนจาก : www.cosmopolitan.com
เรียบเรียงบทความ ; jeanz'woman