Luxury Food's Lobster

ล็อบสเตอร์ (Lobster) เป็นสัตว์ทะเลน้ำเค็มขนาดใหญ่ ลักษณะลำตัวจะมีสีดำปนแดงชื่อของกุ้งชนิดนี้มาจากคำในภาษาอังกฤษสมัยโบราณว่า Loppestre เป็นคำสมาสของคำภาษาละตินว่า ล็อบสเตอร์เป็นสัตว์ขาปล้อง สายพันธุ์ที่เป็นที่รู้จักกันดีที่สุดคือล็อบสเตอร์ยุโรปกับล็อบสเตอร์อเมริกา นอกจากนี้แล้ว ล็อบสเตอร์ยังถือว่าได้ว่าเป็น “ครัสเตเชียน” ที่มีอายุยืนยาวที่สุดด้วย ซึ่งมีอายุขัยโดยเฉลี่ย 100 ปี

ในปี 1900 เป็นปีที่เริ่มมีผู้ที่หันมาสนใจการรับประทานกุ้งล็อบเตอร์แล้ว นอกจากกุ้งล็อบเตอร์ที่เราเห็นกันทั่วไปตามร้านอาหารหรูๆแล้ว พันธุ์ของกุ้งล๊อบเตอร์ ยังมีอีกหลายสายพันธุ์ รวมถึงพันธุ์ที่หายาก เช่น กุ้งล็อบสเตอร์สีน้ำเงิน กุ้งล็อบสเตอร์สีเหลือง และ กุ้งล็อบสเตอร์สีขาว ที่มีเพียง 1 ใน 100 ล้านตัวเท่านั้นที่จับได้โดยชาวประมงท้องถิ่นนอกชายฝั่งโนวาสโกเทีย ของแคนาดา ราคามากกว่า 10 ล้านบาท

ในขณะที่ปกติ ราคากุ้งล็อบเตอร์จากร้านอาหารหรือภัตตาคารหรูเมนูนี้สามารถพุ่งสูงได้ถึงตัวละ 1,500 – 3,000 บาท ขึ้นอยู่กับสถานที่ที่คุณรับประทานยิ่งมีขนาดใหญ่ราคาจะยิ่งสูงขึ้น ในรัฐแคลิฟอร์เนียมีความต้องการล็อบเตอร์เป็น ๆ สูงมาก โดยค่าขนส่งอาจสูงถึง 1,300 บาทต่อตัวทำให้กูล็อบเตอร์กลายเป็นเมนูอาหารที่หรูหราสำหรับผู้มีรสนิยมทางการกิน หากจะทานกุ้งล็อบเตอร์แบบไม่แพงมากนักต้องรับประทานในช่วงฤดูกาลของมัน

ปัจจุบันกุ้งล็อบเตอร์ได้แพร่หลายในทวีปเอเชีย ในประเทศไทยได้ส่งเสริมให้เกษตรกรเลี้ยงกุ้งล็อบสเตอร์น้ำจืด ซึ่งสามารถสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรเป็นอย่างมาก และอาจมากกว่าการปลูกข้าว โดยนำร่องใน จ.ศรีสะเกษ รายละ 100 ตัว เลี้ยงไปพร้อมกับการปลูกข้าว ใช้เวลาเลี้ยงประมาณ 3 เดือน โดยผู้ประกอบการจะรับซื้อในราคากิโลกรัมละ 1,300 บาทเลยทีเดียว

แม้ว่าหลายคนจะคิดว่ากุ้งล็อบเตอร์มี โคเลสเตอรอลสูง แต่จริงๆแล้ว โคเลสเตอรอลที่พบนั้นเป็นโคเรสเตอรอลชนิดที่ดี มีประโยชน์ต่อร่างกายแหล่งโปรตีนชั้นดี มีไขมันอิ่มตัวน้อย แต่มีโอเมก้า 3 เยอะกว่าเนื้อสัตว์อื่นๆมาก รวมทั้งมีธาตุเหล็ก สังกะสี และวิตามินอี สามารถช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจได้ และยังอุดมไปด้วย แร่ธาตุ โปรตีน และ คาร์โบไฮเดรต ซึ่งช่วยให้ร่างกายแข็งแรง สดชื่น กระปรี้กระเปร่า

ยังสามารถช่วยเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรงอีกด้วยสตรีมีครรภ์ ซึ่งจะช่วยเพิ่มพัฒนาการด้านความรู้ความเข้าใจของลูกช่วยพัฒนาสมองและพัฒนาเนื้อเยื่อของระบบประสาทและสายตาในเด็กได้ช่วยทำให้ผิวพรรณสดใสมีผลต่อการรักษาอาการหดหู่ หอบหืด ไขข้ออักเสบและโรคความจำเสื่อม